Skip to content

5 ส่วนของรถมักเสียช่วงหน้าร้อน

  • by
5สิ่งที่ชอบเสียหน้าร้อน

อากาศร้อนไม่ใช่แค่คุณคนเดียวที่ร้อน แต่รถของคุณก็ได้รับผลกระทบจากแสงอาทิตย์ด้วยเช่นกัน เพราะอุปกรณ์หลายส่วนในรถจะเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วเมื่อเจอกับอากาศร้อน หน้าร้อนจึงกลายเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่คุณควรจะดูแลรักษารถของคุณให้มีสภาพสมบูรณ์อยู่ตลอดเวลา สโมสรรถบ้าน.com จึงนำ 5 ส่วนของรถที่เสี่ยงเสียในช่วงหน้าร้อนมาให้ทุกคนได้รู้ จะได้ดูแลรถกันถูกจุดครับผม

5สิ่งที่ชอบเสียช่วงหน้าร้อน มาดูกันเลยว่ามีอะไรกันบ้าง

1.ยางรถยนต์

การดูแลยางรถยนต์ในช่วงหน้าร้อนเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะยิ่งยางเสียดสีกับถนนร้อนๆจะยิ่งทำให้พื้นผิวของยางตึงและเสื่อมสภาพลง โดยเฉพาะใครที่ใช้ยางเก่าต้องระวัง เพราะหากยางตึงมากๆอาจระเบิดได้เลยทีเดียวครับ!
    ฉะนั้นควรดูแลลมยางให้ดี หากยางเก่ามากก็ควรนำไปเปลี่ยนนะครับ ส่วนเรื่องการเติมลมยางพี่หมีมีเทคนิคดีๆมาฝากครับ ให้เติมลมน้อยกว่าค่าที่กำหนดราวๆ  1-2  ปอนด์ต่อตารางนิ้ว เพื่อไม่ให้ผิวยางตึงมากเกินไปกันไว้ยางจะได้ไม่ระเบิดครับ

2. เบรก

เมื่อขับรถด้วยความเร็วสูงแล้วเบรกอย่างกะทันหัน หรือขับต่อเนื่องนานๆ มีความร้อนสะสมที่จานเบรกจนจานขยายตัวผิดรูป ซึ่งสามารถเกิดขึ้นบ่อยในช่วงหน้าร้อน อาจทำให้จานเบรกคดหรือเบี้ยว ทำให้เหยียบเบรกไม่ค่อยลง ไปจนถึงทำให้ระบบอื่นรวน รู้สึกพวงมาลัยสั่นระหว่างขับครับ นั้นเป็นสาเหตุให้เมื่อเบรกเริ่มมีปัญหา ให้รีบเอารถเข้าศูนย์ทันทีและซ่อมตามอาการไม่ว่าจะเปลี่ยนผ้าเบรกหรือเอาจานเบรกไปเจียรครับ

3.ขอบยางประตูและที่ปัดน้ำฝน

ใครที่ชอบจอดรถตากแดดนานๆต้องระวังนะครับ ยิ่งโดนความร้อน ความเหนียวและยืดหยุ่นในยางจะยิ่งลดลงเรื่อยๆ ซึ่งจะทำให้ที่ปัดน้ำฝนฟืดหากฝืนใช้กระจกอาจเป็นรอยได้ และหากเป็นขอบยางประตูจะทำให้ปิดประตูไม่ค่อยอยู่ ดังนั้นหากรู้สึกว่าขอบยางเริ่มฝืด ให้นำขอบยางไปเปลี่ยนกับอู่ซ่อมรถเลยครับ!

4. หม้อน้ำ

หม้อน้ำช่วยระบายความร้อนของเครื่องยนต์รถ ฉะนั้นหากหม้อน้ำมีปัญหาในหน้าร้อน รถจะเกิดอาการ Overheat เร็วขึ้น จึงควรหมั่นตรวจเช็คระบบหม้อน้ำเพื่อความมั่นใจในการขับขี่ครับ
โดยส่วนที่ต้องเช็คได้แก่การทำงานของวาล์วน้ำว่ายังควบคุมน้ำในหม้อน้ำสู่ระบบต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ และระดับน้ำในหม้อน้ำ หากขาดก็ควรรีบเติมทันทีหรือหากกลัวว่าน้ำกลั่นธรรมดา จะไม่สามารถช่วยระบายความร้อนได้ทัน ควรผสมสารหล่อเย็นเข้าไปด้วยเพื่อช่วยระบายความร้อนของเครื่องยนต์ได้อย่างรวดเร็วขึ้นครับ

5. แบตเตอรี่

สุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุดเพราะมีความสำคัญมาก แบตเตอรี่รถยนต์ทำหน้าที่เป็นแหล่งเก็บไฟสำรองรถ ซึ่งหากถูกใช้งานเยอะเกินไปหรือเจอกับอากาศร้อนต่อเนื่องแบตเตอรี่อาจมีอาการอ่อนเพลียและเสื่อมสภาพเร็วขึ้นได้ โดยอาจทำให้รถมีอาการสตาร์ทไม่ติดครับ

วิธีการแก้อย่างง่ายคือควรทำให้รถไม่ร้อน เช่น หลีกเลี่ยงการจอดรถกลางแดด และหมั่นเปิดฝากระโปรงรถเพื่อระบายอากาศ และตรวจสอบขั้วแบตเตอรี่ไม่ให้แน่นเกินไปครับ
เอาเป็นว่าหน้าร้อนนี้ใครที่ใช้รถบ่อยต้องดูแลรักษารถอย่างเคร่งครัดนะครับ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

X