แบตเตอรี่รถยนต์ เมื่อไรควรจะเปลี่ยนนั้น เป็นปัญหาระดับชาติจริงๆ มาดูกันดีกว่าว่า สัญญาณต่อไปนี้ เป็นสัญญาณที่บ่งบอกได้ทันทีเลยว่าถึงเวลาแล้วที่รถของคุณต้องทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้ว! เพราะถ้าหากไม่ยอมเปลี่ยนแบตรถละก็ อาจทำให้รถมีปัญหาจนต้องขายรถทิ้งเลยก็ได้!!
1.สตาร์ทรถในแต่ละครั้ง หากรู้สึกว่ารถสตาร์ทติดยากกว่าปกติ ถ้าคุณเปลี่ยนแบตครั้งสุดท้ายมานานมากแล้ว และพบว่ารถเริ่มสตาร์ทติดยากขึ้น มีเสียงดังแชะๆ ตลอดเวลา เสียงเครื่องยนต์หมุนช้า นั่นอาจหมายความได้ว่าแบตของคุณเริ่มมีปัญหาแล้ว ให้ลองตรวจเช็ค และเตรียมตัวเปลี่ยนแบตไว้ได้เลย
2.ไฟหน้ารถไม่สว่าง เป็นอีกอาการที่บ่งบอกได้ว่าคุณควรเปลี่ยนแบตได้แล้ว และหากพบว่าไฟหน้ารถมีแสงน้อยลง ไม่สว่างเหมือนปกติ นั่นหมายถึงระบบไฟฟ้าภายในรถกำลังอ่อน ซึ่งนั่นอาจจะมีสาเหตุมาจากแบตที่เริ่มเสื่อมสภาพ
3.ระบบไฟฟ้าในรถยนต์เริ่มทำงานไม่ปกติ ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟต่าง ๆ ภายในรถ เช่น กระจกไฟฟ้า วิทยุ เครื่องเสียง หากสิ่งเหล่านี้ที่เราได้บอกไป มีอาการทำงานช้าลง กระพริบติดๆ ขัดๆ รู้สึกได้ถึงความไม่ปกติ ก็ให้สันนิษฐานว่าอาจเป็นเพราะแบตเสื่อมสภาพ
4.เปลี่ยนแบตรถยนต์ครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณ 1.5 – 2 ปีมาแล้ว หากคุณเปลี่ยนแบตมาในระยะที่กล่าวแล้ว อาจต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแบตก้อนใหม่ เนื่องจากอายุการใช้งานของแบตของเราอาจกำลังใกล้หมด
เพราะฉะนั้นไปลองสังเกตอาการที่กล่าวมากันดูว่ารถยนต์ของคุณมีปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นหรือไม่ ถ้าหากมีปัญหาควรรีบไปศูนย์หรือร้านซ่อมเพื่อเช็คหรือทารเปลี่ยน เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถและการเดินทาง