5 วิธีเช็คสภาพรถหลังลุยน้ำ โดยสโมสรรถบ้านขอนแก่น
ช่วงหน้าฝนแบบนี้ เวลาขับรถไปไหนก็ต้องเผื่อใจไว้ว่าจะเจอกับถนนที่มีน้ำท่วมขังหรือเปล่า และถ้าเจอจริงๆ จะวนรถถอยหลังกลับก็คงยาก เลยต้องเดินหน้าฝ่าน้ำท่วมขังไปแบบใจกล้าๆ กลัวๆแต่
ถึงแม้ว่าจะขับรถลุยน้ำท่วมไปได้ เครื่องไม่ดับกลางทาง ขึ้นชื่อว่า ขับรถ ลุยน้ำท่วม ก็มีแต่ข้อเสียที่จะเกิดขึ้นกับระบบการทำงานต่างๆ ของรถยนต์ โดยเฉพาะการลุยน้ำที่มีระดับสูงเกินครึ่งล้อ ก็จะมี 5 สิ่ง ที่ต้องเช็ค
วิธีเช็คสภาพรถหลัลุยน้ำข้อ 1. ระบบเบรค
สำหรับ ระบบเบรค ของรถยนต์ มีอยู่ 2 แบบ “ดิสก์เบรค” กับ “ดรัมเบรค” แต่ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรคไหน ก็ไม่ถูกกับน้ำอยู่ดี เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า น้ำกับโลหะเมื่อมาเจอกัน จะทำให้โลหะเกิดสนิมทำให้เบรคติดขัด ส่วนน้ำมันเบรกเกิดความชื้น ทำให้เบรคลื่น เบรคไม่อยู่และเกิดอุบัติเหตุได้
ไม่เพียงเท่านี้ สิ่งปนเปื้อนและเศษผงที่มากับน้ำ จะเข้าไปติดในระบบเบรคจนทำให้เกิดอาการเบรคติดขัด เกิดเป็นรอยบนชุดจานเบรก
วิธีไล่ความชื้นจากเบรก
หลังจากต้องขับรถบนถนนที่มีน้ำท่วมขัง สิ่งที่ควรทำเสมอ คือ การเลียเบรค เพื่อไล่ความชื้นในผ้าเบรคออก ทำได้โดยการขับรถช้าๆ แล้วใช้เท้าซ้ายแตะเบรกเบา ๆ ค้างเอาไว้เป็นระยะทางสัก 100 เมตร เพื่อให้ผ้าเบรกเสียดสีกับจานเบรกจนเกิดความร้อนเป็นการช่วยเร่งการระเหยของความชื้นออกจากผ้าเบรกทำให้ระบบเบรกกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ลูกปืนล้อ
โดยปกติแล้ว ลูกปืนล้อ หากถูกแช่น้ำนานๆ อาจต้องทำใจไว้ ลูกปืนจะพังเร็ว สังเกตอาการได้จากเสียง ลูกปืนล้อจะดังขึ้นเวลาวิ่งความเร็วสูงๆ เพราะจารบีที่คอยหล่อลื่นภายในลูกปืนได้หายไปกับน้ำ หรืออาจจะเสื่อมคุณภาพแล้วเมื่อถูกน้ำ แต่ถ้าเป็นการขับรถวิ่งผ่านน้ำเฉยๆ จะไม่ค่อยมีปัญหาอะไร แต่อย่างไรก็ควรเช็คอาการกันไว้ก่อน
3. เพลาขับและเฟืองท้าย
ใครที่ขับรถลุยน้ำแบบมิดใต้ท้อง ต้องเช็คสิ่งนี้ด่วน! ชุดเพลาขับและเฟืองท้าย เป็นอุปกรณ์ที่สุ่งเสี่ยงต่อการน้ำเข้า ถ้ายางหุ้มเพลาเสื่อมฉีกขาด มีโอกาสน้ำเข้าไปชะจาระบีที่อยู่ภายในสูงพอตัว ส่วนเฟืองท้าย น้ำสามารถเล็ดเข้าไปให้ในท่อหายใจของน้ำมันเฟืองท้ายได้ หลังขับรถลุยย้ำมาแล้วให้เช็คเสียง หากชุดเพลามีปัญหาจะมีเสียงดังออกมา โดยแก้ด้วยการทาจารบีใหม่ เปลี่ยนยางหุ้มเพลาใหม่ และเปลี่ยนถ่ายของเหลว
4.ระบบปรับอากาศ
ขับรถลุยน้ำขังบ่อยๆ อาจทำให้น้ำเข้ามาในรถแบบไม่รู้ตัว จนเกิดเป็นความชื้น ส่งกลิ่นเหม็นสาปภายในรถยนต์ ถึงแม้รถเราจะไม่ได้จมน้ำ แต่กลิ่นไม่พึงประสงค์นี้ก็ไม่ได้ทำให้รถเราต่างอะไรออกไป ฉะนั้นเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจน้ำท่วมอย่าลืม ไปหาโอกาสกำจัดกลิ่นในระบบแอร์บ้าง
5.ระบบน้ำมันเครื่อง
มาถึงสิ่งสุดท้ายที่ควรเช็ค คือ น้ำมันเครื่อง ว่ามีน้ำผสมอยู่หรือไม่ โดยการดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออกมาเพื่อดูเนื้อของตัวน้ำมัน ถ้าเป็นเนื้อเดียวกันแสดงว่าไม่มีน้ำผสม แต่ถ้าดูแล้วน้ำมันเครื่องเป็นสีออกน้ำตาลๆ หรือแยกชั้นระหว่างน้ำกับน้ำมัน แสดงว่า น้ำได้เข้าไปรวมกับน้ำมันเครื่องแล้ว ต้องนำรถไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องพร้อมไส้กรองใหม่ทั้งหมดทันที