ปัญหารีโมทรถยนต์ ใช้งานไม่ได้ แก้ไขอย่างไร ?by USERCAR11 พฤษภาคม 202211 พฤษภาคม 2022 เชื่อว่าคนใช้รถหลายคน ต้องเคยเจอปัญหารีโมทรถ กดใช้งานไม่ได้ จู่ๆก็ไม่สามารถเปิด-ปิดประตู หรือหากอาการหนักก็ไม่สามารถสตาร์ทรถได้ กันอยู่ใช่ไหมครับ ซึ่งหากเราต้องรีบใช้งานรถเรียกได้ว่าปัญหานี้จะทำให้เราหงุดหงิดหัวเสียได้ แต่ทุกปัญหานั้นย่อมมีทางออก พี่หมีจึงมี วิธีแก้ไข้ปัญหารีโมทรถ ใช้งานไม่ได้ มาฝากเพื่อนๆ กันครับ วิธีแก้ไขปัญหารีโมทรถยนต์ ใช้งานไม่ได้ กรณีกดรีโมทแล้วใช้งานไม่ได้ เมื่อกดรีโมทรถแล้วไม่มีเสียงตอบรับ ไฟเลี้ยวไม่กะพริบ และสตาร์ทรถไม่ติดอีกด้วย ปัญหานี้นั่นเกิดจาก ไฟแบตเตอรี่รถยนต์หมด วิธีแก้ไขคือทำการเช็กแบตเตอรี่รถ หรือให้หารถอีกคันมาทำการพ่วงแบตเตอรี่ โดยวิธีการพ่วงแบตเตอรี่รถอย่างถูกวิธี กรณีกดรีโมทแล้วไม่มีสัญญาณตอบรับ เมื่อเราทำการกดรีโมทรถแล้วไม่มีสัญญาณตอบรับ ไฟเลี้ยวไม่กะพริบ และสตาร์ทรถไม่ติด แต่เปิดประตูรถไซเลนดังขึ้น นั่นหมายความว่า รีโมทรถคุณเสีย หรือรีโมทถ่านหมด ให้เพื่อนๆ ลองเปลี่ยนถ่านรีโมทรถ แต่ถ้ายังใช้งานไม่ได้ ให้ยกเลิกสัญญาณกันขโมยโดย บิดกุญแจรถไปที่สวิต ON แล้วสวิตช์รีเซ็ตค้าง จนกว่าไซเรนจะหยุดร้อง กรณีกดรีโมทแล้วมีสัญญาณตอบรับ แต่สตาร์ทรถไม่ติด ในกรณีที่ กรณีกดรีโมทแล้วมีสัญญาณตอบรับ ไฟเลี้ยวกระพริบปกติ แต่สตาร์ทรถไม่ติด สาเหตุมาจากระบบสตาร์ทรถมีปัญหา วิธีแก้คือตรวจเช็กสภาพระบบสตาร์ทของตัวเครื่องยนต์ กรณีกดรีโมทแล้วมีสัญญาณตอบรับ แต่ประตูรถไม่คลายล็อค หากเรากดรีโมทแล้วมีสัญญาณตอบรับ ไฟเลี้ยวกระพริบ แต่ประตูรถไม่คลายล็อค มาจากปัญหามอเตอร์ระบบเปิด-ปิดประตูรถเสีย วิธีแก้คือ นำรถเข้าศูนย์เพื่อเช็กระบบเปิด-ปิดประตู หรือเปลี่ยนมอเตอร์ กรณีกดรีโมทล็อครถ แต่สัญญาณกันขโมยดัง ไฟเบรกค้าง เมื่อเราทำการกดรีโมทล็อครถเรียบร้อยแล้ว ซักพักมีเสียงสัญญาณกันขโมยดัง และไฟเบรกค้าง นั่นเป็นเพราะไฟเบรกมีปัญหา วิธีแก้ให้เราทำการเปลี่ยน/ซ่อมสวิตซ์ไฟเบรก กรณีกดรีโมทล็อครถ แล้วมีรถขับผ่าน สัญญาณกันขโมยดัง ในกรณีที่มีมีรถวิ่งผ่าน แล้วสัญญาณกันขโมยดังขึ้น เนื่องจากว่าช็อคเซ็นเซอร์ทำงาน วิธีแก้ไขคือ ล็อครถแบบเงียบ โดยไซเลนจะไม่ดัง แต่จะยังคงทำงานปกติ จากนั้นปรับตั้งตัว ช็อคเซ็นเซอร์ โดยหมุนปุ่มที่อยู่บนตัวช็อคเซ็นเซอร์ให้หมุนทวนเข็มนาฬิกา และนี่ก็เป็นวิธีการแก้ไขปัญหารีโมทรถ ใช้งานไม่ได้ หากเพื่อนๆลองทำแล้วรีโมทรถยังใช้งานไม่ได้อีก ลองนำรถไปเข้าอู่ เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจเช็กอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบอีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *ชื่อ * อีเมล * เว็บไซต์ ความเห็น * บันทึกชื่อ, อีเมล และชื่อเว็บไซต์ของฉันบนเบราว์เซอร์นี้ สำหรับการแสดงความเห็นครั้งถัดไป