Skip to content

เคลียร์ชัด! แนะนำ 3 เรื่องที่ต้องดูให้ดีก่อนตัดสินใจทำประกันรถยนต์

  • by
ประกันรถยนต์

เช็กให้ชัวร์! จะซื้อประกันรถยนต์ต้องพิจารณาอะไรบ้าง?

เพราะทุกการสตาร์ทรถยนต์ย่อมหมายถึงโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้น แค่ตั้งสติก่อนสตาร์ทอาจยังไม่เพียงพอที่จะช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้กับการเดินทางได้ เพราะถึงแม้เราจะตั้งสติในการขับขี่เพียงใด แต่หากผู้ร่วมใช้รถใช้ถนนคนอื่น ๆ เกิดความชะล่าใจ อุบัติเหตุก็สามารถเกิดขึ้นได้โดยที่เราไม่คาดคิด หนำซ้ำ ค่าใช้จ่ายที่ตามมา ก็มาพร้อมกันในหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ค่าซ่อมรถยนต์ ค่ารักษาพยาบาล ไปจนถึงการคุ้มครองคู่กรณี ดังนั้น เพื่อช่วยให้ทุกการเดินทางรู้สึกอุ่นใจได้มากขึ้น การเลือกซื้อประกันรถดี ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะสามารถช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาหากเกิดอุบัติเหตุได้ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น หลายคนอาจจะยังสงสัยว่า แล้วประกันรถที่ใช่สำหรับตัวเองเป็นแบบไหน แล้วจะมีปัจจัยใดบ้างที่ต้องคำนึงถึงกับการเลือกซื้อประกันรถในแต่ละครั้ง? รถบ้านขอนแก่น 

ปัจจัยข้อ 1 : ดูเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายให้ดี

จริงอยู่ว่าการเลือกประกันรถควรพิจารณาถึงอายุของรถยนต์และนิสัยการขับขี่เป็นหลัก แต่นอกจากปัจจัยเหล่านี้แล้ว สภาพคล่องทางการเงินก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาให้ดีเช่นเดียวกัน ซึ่งหากเมื่อพิจารณาถึงอายุรถยนต์ และทราบถึงนิสัยในการขับขี่เพื่อเลือกประเภทของประกันรถแล้ว ‘อีซี่ อินชัวร์’ อยากขอแนะนำให้เพิ่มการพิจารณาในส่วนของเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายรายปีเข้าไปอีกขั้น

แต่ถ้าหากใครยังสับสนอยู่ว่าเบี้ยประกันคืออะไร ‘อีซี่ อินชัวร์’ จะขออธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้นดังนี้ เบี้ยประกันรถ คือ ค่าใช้จ่ายที่เราต้องจ่ายให้กับบริษัทประกันในแต่ละปี ซึ่งภายในค่าใช้จ่ายนี้จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายหลัก ๆ อยู่ 2 รายการ นั่นก็คือ ค่าสินไหมทดแทนที่บริษัทประกันจะจ่ายให้กับคู่กรณีหากเราเป็นฝ่ายผิด และ ค่าทุนประกันภัยรถยนต์ซึ่งเป็นวงเงินที่บริษัทประกันภัยจะจ่ายให้ตามความคุ้มครอง ตามเงื่อนไขของประกันรถนั้น ๆ และถึงแม้ว่าจะมีเงื่อนไขในกรมธรรม์ที่แตกต่างกันไป แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว หากความคุ้มครองยิ่งสูง ค่าเบี้ยประกันก็จะยิ่งสูงตามนั่นเอง

ดังนั้น ก่อนจะเลือกซื้อประกันรถทุกครั้ง อย่าลืมเช็กและเปรียบเทียบเบี้ยประกัน รวมถึงค่าสินไหมทดแทน และค่าทุนประกันจากบริษัทประกันหลาย ๆ เจ้าก่อน เพราะไม่แน่ว่าเราอาจจะได้ประกันรถที่คุ้มค่า รวมถึงเหมาะกับความต้องการและกำลังทรัพย์ของเรามากที่สุด

ปัจจัยข้อ 2 : พิจารณาค่าเสียหายส่วนแรกก่อน

อย่างที่บอกไปว่าถึงการเกิดอุบัติเหตุจะเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่หากเกิดขึ้นแล้ว ทุกอุบัติเหตุย่อมมีค่าใช้จ่าย ดังนั้น นอกจากจะพิจารณาถึงค่าเบี้ยประกันที่เป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ในแต่ละปีแล้ว การเลือกทำประกันรถควรคำนึงถึงค่าเสียหายส่วนแรกที่บริษัทประกันจะรับผิดชอบด้วยเช่นกัน

โดยค่าเสียหายส่วนแรกนั้นจะเป็นค่าใช้จ่ายที่มีไว้เพื่อกันไม่ให้คนขับรถยนต์แจ้งซ่อมเท็จโดยที่ยังไม่มีอุบัติเหตุ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ค่าเสียหายส่วนแรกจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

.ค่าเสียหายส่วนแรกแบบบังคับจ่าย หรือ Excess ที่บังคับให้เจ้าของรถยนต์จ่ายเองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี
.ค่าเสียหายส่วนแรกแบบสมัครใจจ่าย หรือ Deductible ที่เจ้าของรถยนต์ต้องจ่ายในกรณีที่เราเป็นฝ่ายผิดเท่านั้น

ซึ่งการพิจารณาในส่วนนี้ ‘อีซี่ อินชัวร์’ ขอแนะนำให้เจ้าของรถยนต์ดูถึงนิสัยและความเชี่ยวชาญในการขับรถยนต์ของตัวเองควบคู่กันไป เพราะค่าเสียหายส่วนแรกนี้จะเป็นตัวกำหนดทั้งส่วนต่างที่เราต้องจ่าย รวมถึงค่าเบี้ยประกันรถในปีถัด ๆ ไปด้วย เช่น หากเราเลือกค่าเสียหายส่วนแรกแบบ Excess และยังขับขี่ไม่ชำนาญ ค่าใช้จ่ายส่วนต่างนอกเหนือจากเบี้ยประกันก็จะสูง แต่ถ้าหากเลือกแบบ Deductible หากยิ่งเราเกิดอุบัติเหตุบ่อย เบี้ยประกันในปีต่อ ๆ ไปจะสูงขึ้นก็จริง แต่ในทางกลับกัน หากเรามีความชำนาญ และสามารถพิสูจน์ได้ว่าเราไม่ได้เป็นฝ่ายผิด เบี้ยประกันในปีถัดไปก็จะลดลงนั่นเอง

ประกันรถยนต์

ปัจจัยข้อ 3 : เช็กอู่ซ่อมรถยนต์ในประกันรถยนต์ที่สนใจให้ดี

เมื่อพิจารณาทั้งค่าเบี้ยประกัน และรู้จักเงื่อนไขของค่าเสียหายส่วนแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รู้หรือไม่? การเลือกทำประกันรถยนต์ยังต้องพิจารณาถึงอู่ซ่อมรถยนต์ที่อยู่ภายใต้กรมธรรม์อีกด้วย เพราะอย่าลืมว่า หากรถยนต์ของเรามีปัญหาขึ้นมา แต่อู่ซ่อมรถยนต์ในกรมธรรม์ดันอยู่ไกล หรือมีคิวซ่อมที่ยาวมาก ๆ ต่อให้เป็นประกันชั้น 1 ที่แพงที่สุด แน่นอนว่านอกจากจะได้รถยนต์ไม่ทันใช้งานแล้ว เราก็อาจเสียค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง รวมถึงค่าเสียเวลาด้วย

ไม่เพียงแต่ระยะทางอย่างเดียวเท่านั้น มาตรฐานและความน่าเชื่อถือของอู่ซ่อมรถยนต์เองก็สำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้น ‘อีซี่ อินชัวร์’ อยากขอแนะนำให้เจ้าของรถยนต์ทุกคนสละเวลาสักนิด เพื่อเดินทางไปดูถึงคุณภาพของอู่รถยนต์ด้วยตาตัวเอง พร้อมทั้งหารีวิวของอู่รถยนต์ภายใต้กรมธรรม์ให้ดีเสียก่อน เพราะหากไม่เช็กอย่างถี่ถ้วน ไม่แน่ว่าอาจเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากอู่รถยนต์ที่ไม่ได้คุณภาพก็เป็นได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

X