ข้อควรรู้เมื่อต้องนำรถไปตรวจสภาพรถยนต์กับตรอ.
จริงๆแล้ว การตรวจตรอ. ก็เหมือนการตรวจสุขภาพประจำปีของเรานั่นเอง รถยนต์ถูกขัยขี่ใช้หนักมาตลอด นานๆเข้าก็ต้องเช็คกันบ้างเพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง แต่มือใหม่หัดขับทุกท่าน เคยสงสัยกันไหมว่า ตรอ. คืออะไร ? แล้วตรวจสภาพรถยนต์กับ ตรอ. ต้องทำอย่างไรบ้าง วันนี้ มีคำตอบมาฝากครับ
ตรอ. คืออะไร ?

ตรอ. ย่อมาจาก สถานตรวจสภาพรถเอกชน ซึ่งก็คือ ศูนย์ตรวจสอบสภาพรถที่ได้รับการอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบกให้สามารถดำเนินการตรวจสอบสภาพรถก่อนที่จะทำการต่อทะเบียนประจำปีใหม่ได้ ทั้งนี้รถที่จำเป็นต้องตรวจสอบสภาพรถก่อนที่จะต่อทะเบียน จะต้องมีอายุการใช้งานเกินกว่า 7 ปีขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือรถจักยานยนต์ก็ตาม
ตรวจ ตรอ. ต้องเตรียมอะไรบ้าง ?
- สมุดทะเบียนรถ (มอไซค์เล่มสีเขียว/รถยนต์เล่มน้ำเงิน)
- ยานพาหนะที่ต้องการนำมาตรวจสภาพรถ
- เจ้าของรถ
- เงินสำหรับจ่ายค่าตรวจ
ตรวจสภาพรถราคาเท่าไหร่ ?
- รถยนต์น้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม คิดค่าบริการ 150 บาท/คัน
- รถยนต์น้ำหนักรถเปล่าเกิน 1,600 กิโลกรัม คิดค่าบริการ 250 บาท/คัน
- รถจักรยานยนต์ คิดค่าบริการ 60 บาท/คัน
ตรอ. ตรวจอะไรบ้าง ?
- ตรวจสอบความถูกต้องข้อมูลของรถ เช่น แผ่นป้ายทะเบียนรถ ลักษณะรถ หมายเลขตัวรถ เลขเครื่องยนต์ เป็นต้น
- ตรวจสภาพตัวถัง สี อุปกรณ์เกี่ยวกับความปลอดภัย อุปกรณ์ไฟฟ้า พวงมาลัย ที่ปัดน้ำฝน ว่ายังใช้งานได้ปกติหรือไม่
- ตรวจสอบระบบบังคับเลี้ยว ระบบรองรับน้ำหนัก ระบบเบรก ระบบเชื้อเพลิง ว่ายังใช้งานได้ปกติหรือไม่
- ทดสอบประสิทธิภาพการเบรก โดยตรวจสอบอุปกรณ์ทุกชิ้นว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่
- ตรวจสอบวัดโคมไฟหน้า ทิศทางเบี่ยงเบนของลำแสง และตรวจวัดค่าความเข้มของแสง
- ตรวจวัดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) และก๊าซไฮโดรคาร์บอน (HC) ของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง
- รถยนต์เครื่องยนต์ดีเซล ต้องตรวจควันดำ โดยระบบกระดาษกรองต้องไม่เกินร้อยละ 50 และระบบวัดความทึบแสงต้องไม่เกินร้อยละ 45
- การตรวจวัดเสียง ต้องไม่เกิน 100 เดซิเบล
และเราสามารถนำรถเข้าตรวจตรอ. ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือน ก่อนวันสิ้นอายุภาษีประจำปี โดยเพื่อนๆสามารถค้นหาทั่วประเทศและเมื่อตรวจสภาพรถแล้ว