เคยสังเกตุกันไหมครับว่า หน้าปัดรถเรานั้นจะมีสัญลักษณ์มากมายไปหมด หากเราบิดกุญแจเพื่อจะใช้งานรถหนึ่งครั้ง จะมีไฟสัญลักณ์ต่างๆโชว์ขึ้นมา และหากเราสตาร์ตเครื่องยนต์เรียบร้อยแล้วไฟเหล่านั้นจะดับไป แต่ถ้ายังมีไฟบางสัญลักษณ์ติดอยู่ นั้นแสดงว่าระบบการทำงานนั้นกำลังทำงานอยู่หรือไม่ก็บางสัญลักษณ์กำลังแจ้งเตือนว่ามีปัญหา ซึ่งจะโชว์ไฟสัญลักษณ์แต่ละสีขึ้นมา
วันนี้ รถบ้านขอนแก่น จึงนำความหมายของสีไฟเตือนหน้าปัดรถ แต่ละสีมีความหมายว่าอะไรบ้าง มาฝากเพื่อนๆ กันในวันนี้ครับ
สัญลักษณ์ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์สีเขียวหรือสีฟ้า
หากไฟเตือนหน้าปัดรถของเพื่อนๆ โชว์ไฟเตือนสีเขียว หรือ สีฟ้า นั้นหมายความว่า ระบบการทำงานนั้นกำลังทำงานอยู่ หรือทำงานเป็นปกตินั้นเอง เช่น สัญลักษณ์ใช้งานรูปไฟสปอร์ทไลท์แสดงขึ้นเป็นสีเขียว นั้นหมายความว่า เรากำลังเปิดใช้งานไฟสปอร์ทไลท์ เพื่อต้องการมองให้เห็นถนนอย่างชัดเจนนในเวลากลางคืน หรือในช่วงที่ฝนตกหนักมีหมอกลง แต่ข้อควรระวังคือไม่ควรเปิดไว้ตลอด หรือเปิดในเวลาที่ไม่จำเป็นเพราะแสงไฟอาจไปแยงตาของรถคันอื่นที่วิ่งสวนมาได้
สัญลักษณ์ไฟเตือนหน้าปัดรถสีเหลือง
ในส่วนไฟเตือนสีเหลืองนั้น หมายถึง รถยนต์กำลังเตือนหรือให้ระวังการเกิดปัญหาของอุปกรณ์นั้นๆ แต่รถยนต์ก็ยังสามารถใช้งานได้อยู่ แต่ก็ควรที่จะนำรถเข้าศูนย์เพื่อทำการตรวจเช็กให้ละเอียด เช่น รูปสัญญาณเตือนน้ำมันขึ้นเป็นสีเหลือง นั้นหมายความว่า น้ำมันรถยนต์ใกล้หมดแล้ว แต่รถก็ยังสามารถขับต่อได้ และควรหาปั้มน้ำมันเพื่อทำการเติมโดยเร็วก่อนที่น้ำมันจะหมด เป็นต้น
สัญลักษณ์ไฟเตือนหน้าปัดรถสีแดง
และสุดท้ายหากเราสตาร์ทรถยนต์เสร็จแล้ว หน้าปัดรถยนต์ยังขึ้นไฟเตือนสีแดง แสดงว่าจุดๆนั้นมีปัญหา เสี่ยงเกิดอันตรายหากยังใช้งานรถต่อ ควรหยุดใช้งานและควรเรียกช่างนำเข้าศูนย์โดยทันที เช่น สัญลักษณ์รูปมาตรวัดความร้อนขึ้นไฟสีแดง นั้นหมายความว่า ระบบระบายความร้อนกำลังผิดปกติให้รีบหาที่จอดแล้วดับเครื่องรอให้อุณหภูมิของเครื่องยนต์เย็นลง อย่าปล่อยให้เครื่อง Over Heat จนเครื่องยนต์ดับเพราะจะสร้างความเสียหายได้