ไฟหน้ารถเหลือง เป็นปัญหากวนใจของคนรักรถ อยากให้รถสวยเงางับเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลา แต่อายุการใช้งานของรถยนต์ที่มากขึ้น ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ เป็นเรื่องธรรมดาที่ไฟหน้ารถจะขึ้นฝ้าและกลายเป็นสีเหลือง ไม่เงาใสเหมือนตอนซื้อรถป้ายแดง สารพัดวิธีขัดไฟหน้ารถให้กลับมาใสเหมือนใหม่ แบบไม่ต้องง้อช่าง เพราะเราสามารถทำเองได้ที่บ้าน แค่เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม ว่าแต่จะมีวิธีไหนบ้าง ต้องเตรียมอะไร ไปดูกันครับ
ไฟหน้ารถยนต์ เป็นอุปกรณ์ที่ทำมาจากแก้วหรือพลาสติก แล้วแต่รุ่นรถ เมื่อถูกใช้งานไปนานๆ มีโอกาสเกิดคราบเหลืองบริเวณด้านนอกและด้านใน หากเป็นคราบด้านใน แนะนำให้ร้านที่มีผู้เชี่ยวชาญในการแกะไฟหน้าออกมาทำความสะอาดดีกว่า แต่สำหรับคราบเหลืองด้านนอกไฟหน้ารถ สามารถขัดให้ใสได้ด้วยตัวเอง
สาเหตุที่ทำให้ไฟหน้ารถเหลือง
ไฟหน้ารถยนต์ไม่ใส กลายเป็นสีเหลืองขุ่น เกิดจากหลายสาเหตุ โดยเฉพาะแสงแดดจัด เมื่อโคมไฟที่ทำจากพลาสติกโดนความร้อนมากๆ เข้า ก็จะแปรสภาพเป็นสีเหลืองขุ่น มีความมัวหมอง มักพบในรถที่มีอายุ 10 ปีขึ้นไป ละอองน้ำมันหรือเขม่าควันจากรถคันหน้าที่กระเด็นมาโดนไฟหน้ารถ หากถูกสะสมเป็นเวลานานก็จะกลายเป็นคราบทำให้โคมไฟหน้ารถเป็นสีเหลือง และในส่วนของความเหลืองภายใน เกิดจากการใช้งานหลอดไฟเป็นเวลานาน ความร้อนของหลอดไฟจะเปลี่ยนสภาพอะคริลิกบนโคมให้ค่อยๆ กลายเป็นสีเหลือง มักพบบ่อยในรถคันที่ชอบท่องโลกยามราตรี เพราะจำเป็นต้องเปิดไฟหน้ารถยนต์เป็นเวลานาน
วิธีขัดไฟหน้ารถเหลืองให้เหมือนใหม่ง่าย ๆ ได้ด้วยตัวเอง
รู้สาเหตุที่ทำให้ไฟหน้ารถยนต์เหลืองกันไปแล้ว มาถึงวิธีขัดไฟหน้าให้ใสวิ๊งกันบ้าง เริ่มต้นจากวิธีที่มีคนพูดถึงกันมากที่สุด ก็คือ การขัดไฟหน้ารถยนต์ด้วย ยาสีฟัน
1. ขัดไฟหน้ารถด้วยยาสีฟัน
สิ่งที่ต้องเตรียม
- ยาสีฟัน
- ผ้าผืนเล็ก หรือ ฟองน้ำแห้ง สำหรับใช้ตอนขัด
- ผ้าแห้ง สำหรับใช้เช็ด
วิธีขัดไฟหน้ารถด้วยยาสีฟัน
- ล้างไฟหน้ารถยนต์ด้วยน้ำเปล่า แล้วเช็ดให้แห้ง
- บีบยาสีฟันลงบนโคมไฟหน้า เกลียให้ทั่วตัวโคม และปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที
- ใช้ผ้าผืนเล็กหรือฟองน้ำแห้ง ขัดวนเป็นวงกลมให้ทั่วโคม ออกแรงพอประมาณให้คราบหลุดออก
- เมื่อคราบหลุดออกแล้ว ให้ล้างด้วยน้ำสะอาด แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดโคม เพียงเท่านี้ก็จะได้โคมไฟหน้ารถสว่างใสปิ๊ง
2. ขัดไฟหน้ารถด้วยกระดาษทราย
สิ่งที่ต้องเตรียม
- กระดาษทรายน้ำ เบอร์ 320
- กระดาษทรายน้ำ เบอร์ 1000 สำหรับแก้ปัญหาไฟหน้ารถเหลือง (คนละประเภทกับกระดาษทรายขัดไม้)
- สเปรย์เคลือบเงา
วิธีขัดไฟหน้ารถด้วยกระดาษทราย
- ใช้กระดาษทรายน้ำเบอร์ 320 ชุบน้ำเล็กน้อย แล้วขัดบริเวณโคมไฟ ขัดด้วยแรงที่สม่ำเสมอกันจนรู้สึกว่าพื้นผิวโคมเรียบเนียน แล้วจึงล้างโคมไฟหน้าด้วยน้ำเปล่า ขั้นตอนนี้ต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ ขัดไป
- ใช้กระดาษทรายน้ำเบอร์ 1000 ชุบน้ำเล็กน้อย ขัดที่โคมไฟอีกครั้ง
- ขัดวนไปประมาณ 5 นาที หรือจนกว่าคราบขุ่นหลุดออกมา
- จากนั้นใช้สเปรย์เคลือเงา ฉีดบริเวณโคมไฟให้ทั่ว
- ขัดด้วยกระดาษเบอร์ 1000 อีกครั้ง โดยขัดวนเป็นวงกลมหลายๆ วง และหลายๆ ครั้ง เท่านี้ก็จะได้โคมไฟหน้ารถเงาวับเหมือนใหม่ แต่อาจจะใช้เวลาในการขัดนานหน่อย เป็นกำลังใจให้ครับ
3. ขัดไฟหน้ารถด้วยผลิตภัณฑ์ขจัดคราบ
สิ่งที่ต้องเตรียม
- ถุงพลาสติก
- ผลิตภัณฑ์ขจัดคราบ
- ผ้าไมโครไฟเบอร์
วิธีขัดไฟหน้ารถด้วยผลิตภัณฑ์ขจัดคราบ
- ทำความสะอาดพื้นผิวบนโคมให้สะอาดด้วยน้ำเปล่าและเช็ดด้วยผ้าให้แห้ง
- นำถุงพลาสติกปกปิดบริเวณรอบโคมไฟ เหลือไว้ให้เห็นเพียงโคมไฟที่เราจะขัด
- ใช้น้ำยาขจัดคราบฉีดไปบนโคมไฟหน้า แล้วทิ้งไว้ 2 นาที
- ใช้ผ้าสะอาดเช็ดบริเวณที่ฉีดไว้ออกให้หมด
- ล้างทำความสะอาดไฟหน้าด้วยน้ำเปล่าอีกครั้ง และใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดให้แห้ง โคไฟหน้ารถที่เคยเหลืองก็จะใสขึ้นทันตา
4. ขัดไฟหน้ารถด้วยครีมทำความสะอาดอเนกประสงค์ (สเตคลีน)
สิ่งที่ต้องเตรียม
- ครีมทำความสะอาดอเนกประสงค์
- ผ้านุ่มๆ
วิธีขัดไฟหน้ารถด้วยครีมทำความสะอาดอเนกประสงค์ (สเตคลีน)
- ทาครีมทำความสะอาดอเนกประสงค์ลงบนโคมไฟหน้ารถให้ทั่ว แล้วทิ้งไว้สักพัก
- จากนั้นใช้ผ้านุ่ม ค่อยๆ เช็ดออก จะทำให้โคมไฟหน้ารถใสขึ้นมาระดับหนึ่ง เหมาะสำหรับไฟหน้ารถที่ไม่เหลืองมาก
จบไปแล้วกับ สารพัดวิธีการขัดโคมไฟหน้ารถยนต์ให้ใสเหมือนใหม่ ที่เพื่อนๆ สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ถ้าไฟหน้ารถเหลืองเมื่อไหร่ ก็อย่าลืมนำวิธีข้างต้นไปลองใช้กันนะครับ แต่สำหรับใครที่นำไปทำตามแล้ว โคมไฟไม่ใสขึ้นตามแบบที่ต้องการ อาจเป็นเพราะคราบติดลึกฝังแน่น แนะนำให้นำรถเข้าร้านบริการขัดไฟหน้ารถ ซึ่งร้านเหล่านี้จะเชี่ยวชาญ และมีอุปกรณ์ในการขัดที่มากกว่า แม้ว่าเราจะต้องเสียเงินสักหน่อย แต่ก็เพื่อรถที่คุณรักจะกลับมาเหมือนใหม่ อาจจะต้องยอมแล้วหละ
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเพื่อนๆ จะเลือกวิธีไหน ขอให้หมั่นดูแลทำความสะอาดไฟหน้ารถยนต์ให้ใสวิ๊ง อย่าปล่อยให้ไฟหน้ารถเหลืองมาบงบังทัศวิสัยในการขับขี่โดยเฉพาะตอนกลางคืน ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ของทั้งคนและรถนะครับ