ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ ใครที่ต้องขับรถออกไปทำงาน ทำธุรนอกบ้าน อาจต้องเจอกับสถานการณ์ “น้ำท่วม น้ำขัง” ซึ่งคุณอาจจำเป็นต้องขับลุย ทำให้น้ำเข้าเครื่อง รถไปต่อไม่ได้ ถือเป็นปัญหาใหญ่สำหรับคนใช้อย่างเรา เพราะต้องเสียเวลานำรถเข้าซ่อม และกว่าจะกู้เครื่องยนต์กลับมาให้เหมือนเดิม คงยากไม่ใช้น้อย หรือถ้าปล่อยทิ้งไว้กลัวว่าปัญหาจะยิ่งบานปลาย วันนี้ รถบ้านขอนแก่น จึงจะมาบอกวิธีสังเกตอาการน้ำเข้าเครื่องยนต์ พร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้น
วิธีสังเกตอาการน้ำเข้าเครื่องยนต์ พร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้น
น้ำเข้าเครื่อง เกิดได้จาก 2 สาเหตุเกิดจาก การรั่วภายใน และ น้ำจากภายนอกเข้าไปในตัวเครื่อง ซึ่งสาเหตุแรกมักเกิดจากเครื่องยนต์ร้อนจัด ทำให้ประเก็นฝาสูบแตกหรือขาด จนน้ำสามารถไหลเข้าไปปนกับน้ำมันเครื่องยนต์ หรือเครื่องยนต์ร้อนจนฝาสูบเครื่องยนต์โก่ง เกิดช่องว่างให้น้ำไหลเข้าไปได้ วิธีสังเกตอาการ หมั่นเช็กปริมาณน้ำในหม้อน้ำ หากลดลงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ควรเติมบ่อยๆ และหาจุดรั่วภายนอก เช็กแผ่นวัดน้ำมันเครื่องออกมาดู ถ้าน้ำมันเครื่องเป็นสีขุ่นๆ พร้อมกับเครื่องยนต์มีอาการเดินเบา สันนิษฐานได้เลยว่ามีน้ำเข้าเครื่อง ให้รีบน้ำรถเข้าศูนย์หรืออู่ซ่อมเพื่อทำการถ่ายน้ำมันเครื่องทันที
แต่อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ น้ำเข้าเครื่องจากภายนอก เกิดจากการขับรถลุยน้ำ ไม่ว่าจะค่อยๆ ขับหรือขับอย่างเร็ว ขณะเดินเครื่องหรือจอดนิ่ง หากเครื่องยนต์ทำงานอยู่ แล้วมีน้ำเข้าผ่านท่อดูดอากาศไอดี เข้าห้องเผาไหม้ จะทำให้เครื่องยนต์ดับทันที หลังจากนั้นเคลื่อนรถไปพื้นที่แห้ง เหยียบเบรคซ้ำๆ เพื่อไล่น้ำออกจากผ้าเบรคซัก 5-10 นาที แล้วเปิดฝากระโปรงเพื่อไล่ความชื้น และเช็กไส้กรองอากาศ ถ้าเปียกแสดงว่าน้ำเข้าเครื่องแน่นอน ให้รีบนำรถเข้าศูนย์หรืออู่ซ่อมทันที ให้ช่างที่เชี่ยวชาญประเมินอาการ อาจต้องเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างหนัก ไม่แน่อาจต้องซื้อเครื่องยนต์ใหม่ยกคัน เพราะทั้ง วาล์วคด ลูกสูบแตก ก้านสูบงอ ปลอกวาล์วเสีย ยากที่จะซ่อมให้กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม
หลังจากขับรถลุยน้ำ นอกจากจะเช็กภายในเครื่องยนต์แล้ว ควรตรวจสอบระบบเบรกและน้ำมันเบรกทั้ง 4 ล้อ เนื่องจากอาจจะมีน้ำเข้าไปเจือปน ทำให้ระบบขัดข้องได้ เป็นอันตรายต่อการขับขี่ แต่สุดท้ายแล้ว แนะนำให้เพื่อนๆ นำรถเข้าเช็กกับช่างผู้เชี่ยวชาญจะเป็นดีที่สุด