โดนชนแล้วม่รับผิดชอบ เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดกับตัวเอง เพราะบางกรณีที่เป็นรถเล็กอย่างรถจักรยานยนต์ที่ชนเสร็จแล้วหนีไปโดยที่เราไม่สามารถตามได้ทัน จึงไม่สามารถหาผู้มาชดใช้ความเสียหายได้ แล้วถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับเราจะต้องทำอย่างไรนั้น มีทริคมาแนะนำครับ รถบ้านขอนแก่น
3 สิ่งทำทันทีเมื่อเกิดเหตุชนแล้วหนี
ตั้งสติพร้อมเก็บหลักฐาน
ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องใช้สติทั้งนั้น ยิ่งเจอเหตุการณ์แบบนี้ยิ่งต้องใช้สติ จากนั้นดูความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยเก็บหลักฐานทุกอย่างให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นถ่ายรูปความเสียหายที่เกิดกับรถของตัวเอง ชิ้นส่วนต่างๆ กล้องวงจรปิด กล้องหน้ารถ ให้เก็บข้อมูลทุกอย่างไว้เพื่อนำไปใช้ประกอบเอกสารพิจารณาสำหรับการเคลมประกันในลำดับต่อไปครับ
ติดต่อตัวแทนประกัน
หลักจากนั้นให้รีบติดต่อกับบริษัทประกันที่รับผิดชอบที่ดูแลกรมธรรม์ประกัน โดยเบื้องต้นจะต้องตรวจสอบกรมธรรม์ขั้นพื้นฐานว่าการดูแลคุ้มครองอยู่ในระดับใด หากทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 หรือในแผนอื่นๆ ที่คุ้มครองอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี ทางบริษัทจะสามารถดำเนินการเรื่องประกันต่อไปได้นั่นเอง นอกจากนี้ทางบริษัทประกันภัยจะแจ้งการดำเนินการในขั้นตอนต่อไปอย่างเช่น การขอภาพถ่ายในสถานที่เกิดเหตุ การเก็บหลักฐานต่างๆ โดยทางตัวแทนของบริษัทประกันอาจจะไม่จำเป็นจะต้องไปยังที่เกิดเหตุ อีกทั้งยังสามารถเลื่อนหรือเคลื่อนย้ายรถได้อีกด้วยนะครับ
แจ้งความ
ในกรณีโดนชนแล้วไม่รับผิดชอบ ผู้ประสบเหตุจะต้องรีบดำเนินการแจ้งความในทันทีเพื่อลงบันทึกประจำวัน เพราะนอกจากจะสามารถกู้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่เกิดเหตุจากกล้องวงจรปิดของทางหน่วยงานได้อย่างรวดเร็วแล้วนั้น ถ้ายิ่งมีเอกสารใบแจ้งความก็จะทำให้การยื่นเรื่องเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการเคลมประกันได้ง่ายมากยิ่งขึ้นนั่นเองครับ ซึ่งใบแจ้งความถือว่าเป็นเอกสารที่สำคัญมากที่จะเป็นการยีนยันให้ทราบว่าได้เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นจริงๆ
เตรียมความพร้อม
เจอเหตุการณ์แบบนี้ก็ไม่รู้จะไปเอารับกับใคร แล้วยังต้องมากังวลกับค่าซ่อมรถอีกว่าจะเคลมได้หรือไม่ มาเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกันครับ
ติดกล้องหน้ารถ
การติดกล้องหน้ารถเป็นสิ่งที่สำคัญแม้กระทั่งกล้องด้านหลัง เพราะการที่มีกล้องนั้นมันสามารถบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ได้ เพื่อนำมาใช้เป็นหลักฐานกับเหตุการณ์นั้นได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถบันทึกป้ายทะเบียนรถของผู้ก่อเหตุได้อีกด้วยนะครับ สามารถนำมาติดตามเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายนั่นเอง
ตัวช่วยลดความเสี่ยง
วช่วยที่ดีก็คือ การมีประกันภัยรถยนต์ หากเลือกกรมธรรม์ประกันภัยที่สามารถคุ้มครองรถและความเสียหายได้อย่างครบถ้วน ก็สามารถดูแลเราได้ทุกสถานการณ์นั่นเองครับ และประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มครองได้อย่างครบถ้วนก็หนีไม่พ้น ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ที่คุ้มครองได้อย่างครอบคลุมนั่นเอง ไม่ว่าจะเหตุการณ์ใดก็หมดกังวลได้เลย แต่ถ้าเป็นประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ หรือ 3+ ในบางบริษัทก็อาจจะคุ้มครองในบางกรณีครับ