Skip to content

คุณสมบัติของยาง

  • by
คุณสมบัติของยาง

หากพูดถึงรถยนต์แล้ว หลายท่านคงนึกถึง รูปลักษณ์การดีไซน์ สมรรถนะของเครื่องยนต์ หรือออปชั่นอำนวยความสะดวกของรถยนต์ แต่มีสิ่งนึงที่หลาย ๆ คนอาจจะไม่ค่อยให้ความสนใจคือ ยางรถยนต์

รถยนต์ รวมถึงความปลอดภัยของผู้ขับขี่เองก็ขึ้นอยู่กับยางรถยนต์ วันนี้ สโมสรรถบ้าน.com ขอนำเสนอเรื่องความรู้พื้นฐานของ ยางรถยนต์ จาก บริดจสโตน มาฝากกันครับ 

 ยางรถยนต์ คือ อุปกรณ์หลักส่วนควบของรถยนต์ ทำหน้าที่รองรับน้ำหนักรถยนต์และใช้ในการขับเคลื่อนให้รถยนต์ไปได้อย่างนิ่มนวลและปลอดภัย ถ้าไม่มีล้อและยาง รถยนต์ก็ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ ยางรถยนต์ประดิษฐ์ขึ้นในปี พ.ศ. 2382 โดย ชาร์ลส์ กู๊ดเยียร์ ชาวอเมริกัน เขาค้นพบว่าเนื้อยางเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถที่จะทนทานต่อสภาพดินฟ้าอากาศได้ เขาจึงได้นำยางดิบผสมกับกำมะถันและตะกั่วแล้วลนด้วยไฟ ในปัจจุบัน ยางรถยนต์ ทำมาจากยางธรรมชาติผสมกับยางสังเคราะห์ ผงคาร์บอน น้ำมัน สารเคมี และอื่น ๆ เสริมความแข็งแรงด้วยชั้นของผ้าใบที่ทำมาจากเส้นด้ายไนลอน หรือโพลีเอสเตอร์ และเส้นลวดเหล็ก

คุณสมบัติของยางรถยนต์สามารถจำแนกส่วนประกอบออกได้เป็น 6 ส่วน ดังนี้

หน้ายาง (Tread)

 คือส่วนประกอบที่อยู่นอกสุดของยาง และเป็นส่วนเดียวที่สัมผัสผิวถนน ทำหน้าที่ป้องกันของมีคม ที่จะทำอันตรายต่อโครงยาง ที่หน้ายางจะประกอบไปด้วยดอกยางและร่องยาง เพื่อทำหน้าที่ในการยึดเกาะถนน มีแรงกรุยเวลาวิ่ง เบรคหยุดได้มั่นใจ ในปัจจุบัน ดอกยางมีอยู่หลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดจะมีประสิทธิภาพที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น ผู้ใช้จึงควรเลือกชนิดของดอกยาง ให้เหมาะสมกับสภาพการใช้งาน

ไหล่ยาง (Shoulder)

 เป็นส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างหน้ายางกับแก้มยาง มีความหนาพอ ๆ กับหน้ายาง ปกติไหล่ยาง จะถูกออกแบบเป็นร่องให้เหมาะสม เพื่อช่วยระบายความร้อนภายในยางให้ออกมาได้ง่าย

แก้มยาง (Sidewall)

เป็นส่วนด้านข้างสุดของยาง ที่ไม่ได้สัมผัสพื้นผิวถนนขณะที่รถวิ่งอยู่และเป็นส่วนที่ยืดหยุ่นมากที่สุดของยางในขณะใช้งาน

โครงยาง ( carcass )

เป็นส่วนประกอบหลักของยาง ซึ่งมีบทบาทสำคัญที่คงรูปร่าง และจะรักษาความดันลมภายในยาง เพื่อให้ยางสามารถรับน้ำหนักบรรทุกได้ รวมทั้งต้องทนทานต่อแรงกระแทก หรือสั่นสะเทือนจากถนนที่มีต่อยางได้ดี

ผ้าใบเสริมหน้ายาง หรือเข็มขัดรัดหน้ายาง ( Breaker or Belt )

เป็นชั้นที่อยุ่ระหว่างหน้ายาง (Tread)กับโครงยาง (Carcass) ในกรณียางธรรมดา (Bias Tire) เราเรียกว่าผ้าใบเสริมหน้ายาง (Breaker) และในกรณยางเรเดียล ( RadialTire ) จะเรียกว่า เข็มขัดรัดหน้ายาง (Belt) ซึ่งทำหน้าที่เพิ่มความแข็งแรง ให้กับหน้ายาง ให้สามารถรับแรงกระแทกได้ดี และป้องกันไม่ให้โครงยางชำรุดเสียหยจากสิ่งอันตรายต่าง ๆ จากพื้นถนน

ขอบยาง (Bead)

ประกอบด้วยกลุ่มของเส้นลวดเหล็กกล้า (High Cerbon Steel) ที่ช่วยยึดส่วนปลายทั้ง 2 ข้างของโครงยางเอาไว้ เพื่อให้บริเวร์ขอบยาง (Bead) มีความแข็งแรง สามารถยึดแน่นสนิทกับกระทะล้อได้ดีเมื่อนำไปใช้งาน

สำหรับยางรถยนต์ที่ไม่ใช่ยางใน (TubelessTire) ขอบยางเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ที่จะต้องทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้ลมยางรั่วซึมออกมา

นอกจากนี้ ยางรถยนต์ยังมีส่วนประกอบย่อยอื่น ๆ เช่นผ้าใบหุ้มขดลวดและขอบยางแข็ง ๆ ที่มีลักษณะคล้ายสามเหลี่ยม (Bead Filer) ทำหน้าที่เชื่อมต่อ ระหว่างส่วนที่แข็ง คือบริเวณขอบยาง ไปสู่ส่วนที่อ่อนและยืดหยุ่น คือบริเวณแก้มยางและยังมีผ้าใบหุ้มขอบลวดที่อยุ่ด้านนอกสุดของขอบยาง เพื่อป้องกันการเกิดอันตรายกับโครงยาง จากการถอดประกอบเข้ากับกระทะล้อในแต่ละครั้ง

บอกได้เลยว่ายางรถยนต์ ที่เราใช้กันอยุ่ทุกวันนี้ได้รับการพัฒนามาอย่างยาวนาน ในแต่ละส่วนของยางล้วนทำหน้าที่เพื่อให้เส้นยางทำหน้าที่ของมันได้เต็มประสิทธิภาพ รู้แบบนี้เมื่อถึงเวลาเลือกยางก็คงเลือกพิถีพิถันหน่อยล่ะครับ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

X