Skip to content

วิธีตรวจสอบคุณภาพยางรถยนต์

  • by
คุณภาพยางรถยนต์ 2022

สภาพภูมิอากาศในประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในภัยร้ายที่คอ ยบั่นทอนยางรถของคุณ ยางต้องเจอกับสภาพถนนและอุณภูมิที่แตกต่างกันอย่างมา กในแต่ละวัน เราจึงควรเอาใจใส่ต่อยาง เพราะสิ่งที่จะได้รับตอบแทน คือการขับขี่ที่ปลอดภัยตลอดเส้นทาง ซึ่งทางที่ดีจึงควรตรวจสอบยางของท่านอย่างน้อย สัปดาห์ละ 1 ครั้ง

วิธีตรวจสอบคุณภาพยางรถยนต์แบบง่ายๆ

     1 ตรวจสอบหน้ายาง และแก้มยาง ว่ามีความเสียหายใดๆ เกิดขึ้นหรือไม่ เช่น รอยบาดจากของมีคมประเภทเศษแก้ว การบวมบริเวณแก้มยาง การแตกลายงาในทุกส่วนของยาง

หากเกิดการฉีกขาดจากแก้มยางจนลึกไปถึงผ้าใบชั้นใน ควรเปลี่ยนใหม่ทันที ไม่ควรซ่อม เพราะแก้มยาง คือจุดที่ยางต้องรับน้ำหนัก และมีการบิดตัวไปมาในขณะที่ท่านขับขี่ ยางอาจเกิดการระเบิดขึ้นได้ หากมีรอยฉีกขาดบริเวณแก้มยาง

      2 น้ำมันทุกชนิด มีผลก่อให้เกิดการบวมของยาง หรือยางร่อนออกจากขอบกระทะล้อ ควรหลีกเลี่ยงการจอดรถบนคราบน้ำมัน หรือหากมีน้ำกรดหกโดนยาง ควรรีบล้างออกด้วยน้ำสบู่ พร้อมตรวจสอบสภาพของกระทะล้อ และจุกวาล์วเติมลมเป็นประจำ เพราะบ่อยครั้งการแบนหรือรั่วซึมเกิดขึ้นจากสองจุดนี ้ และควรมีฝาปิดจุกเติมลม เพื่อป้องกันการซึมของลมยาง

       3 เมื่อรถเสีย และต้องถูกลากเป็นระยะทางไกลๆ ควรเพิ่มแรงดันลมยางที่ล้อหลังอีก 3-4 ปอนด์ ต่อตารางนิ้ว

       4 การเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง หรือการออกตัวอย่างรุนแรง หรือออกรถแบบกระชาก จะทำให้ยางมีการสึกเร็วกว่าการขับขี่แบบปกติมาก

      5 ควรตรวจสอบความลึกของดอกยาง ว่าถึงระดับที่ควรจะเปลี่ยนยางหรือไม่ ซึ่งความลึกของดอกยางที่เหมาะสมควรมากกว่า 2 มิลลิเมตร ยางบางรุ่นในยุคปัจจุบัน มีสัญลักษณ์บอกความลึกของดอกยาง เป็นแท่งเชื่อมระหว่างดอกยาง บริเวณส่วนลึกสุดของร่องยาง (แต่ไม่ไช่ทุกร่อง) เมื่อใดที่ดอกยางสึกจนถึงแท่งนี้แล้ว ควรเปลี่ยนยางเส้นใหม่ได้แล้ว

 อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาองค์ประกอบอื่นๆ ของยางควบคู่กันไปด้วย เช่น สภาพของเนื้อยางมีการบวม หรือแตก เพราะยางบางเส้นอาจหมดอายุการใช้งานแล้ว 2 มิลลิเมตร ก็ตาม

       6 ควรเขี่ยเศษก้อนกรวด เศษแก้ว ที่ติดอยู่บริเวณร่องยางออกให้หมด เพราะเศษกรวดเหล่านี้ อาจเบียดแทรกและทิ่มตำเนื้อยางให้เสียหายได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

X